ประวัตินักบอล Arjen Robben วิเคราะห์ฉายา “ซ้ายผ่านตลอด” ตัดเข้าในซ้ายสังหาร เกินต้านทาน

ประวัตินักบอล เรื่องราว ของ นักฟุตบอล ประวัติ นักฟุตบอล ระดับโลก ที่มานามว่า Arjen Robben ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทความ ที่เกี่ยวกับ ประวัติ นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง ที่หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วซึ่งเป็น บทความกีฬาที่น่าสนใจ ในวันนี้ที่ผมจะมานำเสนอ

บุรุษที่มีเครื่องหมายการค้า เป็นการตัดเข้าในยิง ที่สถิติโหดที่สุดคนหนึ่ง ในวงการฟุตบอล

หากทุกท่าน ลองเข้าไปในยูทูป แล้วเสิร์ชหาเล่นๆแบบผมว่า All Arejen Robben Goal แล้วถ้าไม่เชื่อลองไปเปิดดูนะครับ ท่านจะเห็นวิธีการเข้าทำประตูจามเสตปหลักๆ มีอยู่ 3 เสตปดังนี้

1. เป็นปีกที่มักถูกวางไว้เล่นกราบขวา
2. เลี้ยงจี้เข้าหาคู่ต่อสู้ ในพื้นที่กราบสุดท้าย ที่ตนเองเล่นอยู่
3. อยู่ขวาเลี้ยงจี้ เมื่อได้จังหวะ จะโยกเข้าในอย่างรวดเร็ว
4. หากเลี้ยงผ่านไปได้ ก็จะหาพื้นที่ยิงราวๆบริเวณ หัวกระโหลก
5. หลังจากนั้นเขาจะยิง แต่ยิงด้วยข้างเท้าด้านใน คล้ายการยิงปั่นฟรีคิก
6. ลูกยิงเขาจะโค้งออกด้านนอกก่อน ก่อนจะโค้งเข้ากรอบประตู
7. ด้วยความที่ลูกยิง ดค้งออกก่อนแล้วฮุคเข้าใน จึงทำให้ยากต่อการเซฟ
8. เกือบทุกครั้งถ้าเขาได้ยิงเมื่อไร ผู้รักษาประตูต่อให้รู้ ก็บอกตรงๆว่าเซฟไม่ค่อยทัน
9. สาเหตุหลักๆคือ ลูกถูกปั่นอ้อม ทำให้พุ่งเซฟยาก

แต่ไอ้วิธีนี้เหมือนกับมาถูกค้นพบ และใช้เป็นประจำ ใช้ได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพ ก็เอาในยุคที่เขาเล่นให้กับ Bayern Munich เพราะตั้งแต่เส้นทางเขา ไล่มาตั้งแต่ Groninggen ย้ายมา Chelsea ลุยต่อที่ Real Madrid ดูแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่ได้มีวิพีเข้าทำ ที่ชัดเจนเท่ายุคหลัง

แต่หลายครั้งเขาก็สามารถเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ ลากผ่านไปสามสี่คนเข้าไปยิงเอาได้ดื้อๆ ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดามาก เพราะลีกที่เขาลากผ่านไป แต่ละคนแต่ละทีม คือระดับลีกสูงสุด ซึ่งทุกลีกโดนแบบเดียวกันหมด ตั้งแต่สูงสุดของ ฮอลแลนด์ , อังกฤษ , สเปน , เยอรมัน ก่อนจะกลับมายุคิ พักค้าแข้งท้ายๆที่ทีมบ้านเกิดอีกครา

แล้วผมก็มานั่งวิเคราะห์ลงไปอีกว่า ทำไมรู้ทั้งรู้แต่ปิดเขาไม่ได้ล่ะ ทั้งที่กองหลังทุกคนก็รู้ว่าเขาจะทำอะไร

ผมนั่งวิเคราะห์สาเหตุได้ดังนี้ครับ

1. การเคลื่อนที่ช่วย ของเพื่อนร่วมทีม ให้ฝ่ายรับฝั่งตรงข้าม เพื่อทำให้ลังเล และเปิดทางให้ ร็อบเบน ฉวยโอกาส
2. เสตปการเลี้ยงของเขา ค่อนข้างเร็ว เพราะการเลี้ยงบอล โดยการโหย่งตัว พร้อมที่จะโยกเปลี่ยนสปีดความเร็ว
3. ซึ่งหากฝ่ายรับกลัวการตัดเข้าในยิง เขาก็จะใช้พื้นที่ด้านนอกแทน เช่นการเลี้ยงฉีกไปก่อน แล้วส่งตัดเข้ามา หรือ ค่อยวกกลับมายิงได้อีกอยู่ดี
4. นั่นหมายความว่า ทีมฝ่ายตรงข้าม วิจัยมาอย่างดีแล้ว ว่าร็อบเบน ไม่ได้มีดีแค่เพราะเล่นเท้าซ้ายได้แค่นั้น แต่รอบเบนมีวิธีการที่ทำให้ คนประกบเขาลำบาก
5. อย่างการเลี้ยงจี้ เหมือนเขาจะมองจังหวะเท้าคู่ต่อสู้ ว่าขาตายเมื่อไร จึงโยกเปลี่ยนทิศทาง

ในข้อที่ 5 ผมรู้สึกว่านั่นคือหัวใจหลักของวิธีก่ารนี้เลยทีเดียว สังเกตุได้ว่าเมื่อเขาเลี้ยงจี้ เขาจะซอยเท้าใส่คู่แข่ง ซึ่งคู่แข่งจะไม่กล้าเข้าทันทีเพราะกลัวขาตาย ส่วนมากก็จะซอยเท้าเสตปรอจังหวะ กางขาเยอะๆเพื่อพยายามเกะกะร็อบเบนไว้ แต่พอยิ่งถอยการทรงตัวก็ยิ่งเสียนั่นเอง

ซึ่งเมื่อไรที่เท้ายืนต่อให้ซอยถี่แค่ไหน หากคนเลี้ยงจี้จับจังหวะขาคู่ต่อสู้ได้ว่าตายหรือไม่ นั่นก็จะทำให้ได้ผลแบบเดิมๆ ซึ่งต่้องบอกว่า Profile นักฟุตบอล คนนี้จะว่าตลกร้ายก็ได้ คือคนอะไรพอเราไปดูวิดีโอการทำประตู เหมือนไปดูภาพซ้ำ 5555555 ไม่เชื่อลองดูครับ

มันจะเหมือนคุณเปิดคลิปอันเดิม แค่เปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนสนาม เปลี่ยนจุดนิดเดียว แต่ถ้าคุณดูไปเรื่อยๆนะ หลายสิบคลิปต่อๆกัน มันเหมือนคลิปเดียวกันเลย ไม่เชื่อก็ต้องลองดูครับ ท้าพิสูจน์เอา อิอิ หรือว่าหัวล้านของตาร็อบ สะท้อนแสงให้คู่ต่อสู้แสบตา จนต้องเสียจังหวะ เสียประตู เสียสุนัขก็ไม่รู้นะ แหะๆ

ร็อบเบนเป็นอีกคนที่ผมมองว่า เกิดมาเพื่อบอลระบบ 4-3-3 สำหรับเพื่อบอลสมัยใหม่โดยเฉพาะ สาเหตุนะเหรอ เพราะสไตล์แบบนี้ถ้าจับไปเล่น 4-4-2 ก็ไม่ใช่ปีกเชิงกึ่งอยู่กลางๆนะสิ ตานี่คงไม่ต้องหวังให้เค้าเล่นทั้งรุก และ รับ หากมองจากวิธีการเล่นที่เขาถนัดแล้ว

เพราะถ้าเล่นระบบที่ปีก ต้องรับผิดชอบตรงกลาง หรือลงมาตั้งรับด้วย ก็คงไม่เหมาะในเมื่อเขาถูกสร้างมาเพื่อ เจาะเกราะทำลายล้าง มากกว่าการเอาความเก่งของเขามาค่อยป้องกัน ซึ่งเหมาะมาก กับตำแหน่งกองกลางตัวริมเส้น ที่อยู่ในแดนบนคล้ายไปทางกองหน้าตัวริมเส้น ทำนองนั้นดูจะเข้าที่เข้าทางมาก

เพราะในระบบ 4-3-3 หากเมื่อไรเขาเลี้ยงไม่ได้ เขาพลิกมาทำเหมือนกับจะเข้ามาตรงกลาง เพื่อเปิดให้แบ็คเติม ตัวที่ประกบเขาที่ริมเส้นจะระแวง ซึ่งถ้าไปปิดทางตัวเติม ร็อบเบนยิ่งเข้ากลางมายิงง่ายๆ ซึ่งจะให้เซนเตอร์ออกมาซ้อนปิดนอกพื้นที่ก็คงไม่ใช่ หรือหากกองกลางฝ่ายตรงข้ามออกมาด้วย ก้เสียตำแหน่ง

ส่วนมากก็จะให้กองกลางรอดัก ร็อบเบนเพื่อไม่ให้เขาตัดในยิง ส่วนแบ็คฝั่งตรงข้ามก็คอยสอดซ้อน รอปิดเส้นทางตัวเติม แต่ถึงกระนั้น เมื่อบุกฝั่งร็อบเบนจะวางหมากให้ ตัวบุกเยอะกว่าตัวรับฝั่งตรงข้าม ในพื้นที่หนึ่ง เพื่อะไรเหรอครับ ก็เพื่อให้กองกลางที่คอยดูแลตรงบริเวณหัวกระโหลก ป้องกันยากขึ้ิน

ประวัตินักบอล นั่นก็คือสาเหตุที่มาของคำว่า “ซ้ายผ่านตลอด” 

โดยสรุปแล้วนั่นก็เป็นสิ่งพอจะบอกได้ว่า ร็อบเบนยิ่งดูโดดเด่น เพราะแท็คติกของทีมด้วยเช่นกัน เพราะต่อให้เขาเก่งแค่ไหน หากไม่มีเพื่อนร่วมทีม ค่อยวิ่งหาข่องสร้างทางเลือก เปิดทางให้เขาเจาะ ก็ยากที่เขาจะผ่านไปได้ ถึงแม้เขาจะเปรียบเสมือน กระสุนเจาะเกราะที่ปลายแหลมเฟี้ยว แรงระเบิดหลายเมกะตันก็ตาม

แต่หากคนเบิกทาง หรือนายทหารที่ให้เขาสามารถวิ่งฝ่าวงล้อม ไปวางระเบิดตรงตำแหน่งเป้าหมาย การระเบิดนั้นย่อมไร้ประโยชน์ คิดภาพหนังสงคราม ที่จะมีแผนการยิงคุ้มกันเพื่อให้นายมทหารที่รับสั่งเป็นหัวใจเป้าหมาย กรุยทางคอยดูแลไปจนจบภารกิจได้แบบนั้นเลยก็ว่าได้ครับ

สุดท้ายนี้ก็ต้องบอกแฟนบอลว่า สำหรับผมนักเตะคนนี้ น่าจะเป็น The Best ในตำแหน่งนี้แล้ว ตั้งแต่มีทีมชาติฮอลแลนดฺ์มา หากเปรียบก็ขอยกตัวอย่างก็คงเหมือน Ryan Giggs ของทีมชาติเวลส์ละกันครับ เพราะเป็นนักเตะที่สามารถ สามารถที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเกมฟุตบอลได้

ผมบอกตรงนี้เลยว่า ในหลายเกมที่ผมดูมาทุกแมตช์ ที่ทีมชาติฮอลแลนด์ลงเตะ หากนัดไหนดูอึดอัดเจาะไม่ได้ ร็อบเบนลงไปเมื่อไร มันเหมือนกับห้องปิดตายห้องหนึ่งที่มิดชิดมาก อากาศหายใจเล็ดรอดออกมาไม่ได้เลย ตอนเขาไม่ได้ลงสนาม แต่พอร็อบเบนลงไป ในเกมที่ฮอลแลนด์ทำอะไรไม่ได้

บัดนั้นก็เหมือนเข็มที่ไปเจาะห้องนั้น ให้อากาศ หรืออะไรในนั้นหลุดออกมาได้ ถ้ามุมสงครามคือ กระสุนเจาะเกราะทำลายกำแพงให้ทหาร เข้าไปประชิดตัวยึดดินแดน ของคู่ต่อสู้ได้นั่นเองครับ และนี่คือ ประวัตินักบอล สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

“เด็กเนิร์ดสีส้ม”